ข้อดีข้อเสียของการทำการตลาดบน TikTok ที่ธุรกิจออนไลน์หน้าใหม่ต้องรู้
auttaphon auttaphon |
ในปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทำให้แนวคิดการทำคลิปแนวตั้งหรือวิดีโอสั้นมีเพิ่มขึ้นตามมาในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ แต่แพลตฟอร์ม TikTok ก็ถือได้ว่าได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องด้วยมีลูกเล่นมากมายและสนุกสนาน TikTok จึงกลางเป็นแหล่งรวมทั้งคอนเทนต์สุดไวรัลที่ทันกระแส และมีสถิติการใช้งานที่น่าสนใจจนทำให้ธุรกิจออนไลน์หลายเจ้าเริ่มกระโดดเข้ามาทำการตลาดบน TikTok ด้วยการสร้างแบรนด์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เนื่องจากการตลาดบนติ๊กต็อกนั้นให้โอกาสธุรกิจหลากหลายแนวได้ปั้นแบรนด์ได้หลากหลายที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะฉะนั้นก็ต้องมีคู่แข่งมากมายตามมาด้วย โดยเฉพาะกับธุรกิจหน้าใหม่ที่ไม่ควรมองข้ามการทำการตลาดออนไลน์มีข้อดีข้อเสียมากกว่าช่องทางอื่นอย่างไร
TikTok ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับกลุ่ม Millennials และ Generation Z ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี โดยในประเทศไทยมียอดผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคนจากข้อมูลของ TheB2BHouse มีการคาดการณ์ว่า หลายธุรกิจทั่วโลกจะหันมาในใจทำการตลาดบน TikTok มากขึ้น เนื่องด้วยมีการเติบโตทางการตลาดที่มากขึ้นถึง 24,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าในปี 2024 ตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัวจากเดิม ซึ่งจากการวิจัยของ TikTok เองก็ระบุว่าผู้ใช้งานสามารถจดจำแบรนด์จาก TikTok ได้มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นถึง 40 %
ต้องบอกว่าอัลกอริทึมของ TikTok นั้นรู้ว่าผู้ใช้งานต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไรจึงได้คัดสรรเนื้อหาได้ตรงกับแบรนด์ได้ ซึ่งถ้าแบรนด์ยิงแอดเพิ่มก็อาจเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ใช้งานได้รู้จักแบรนด์มากขึ้น เพราะถ้าผู้ใช้งานได้สนใจแบรนด์แล้วอัลกอริทึมก็จะจัดระเบียบคอนเทนต์ไว้บนหน้า For You ให้ผู้ใช้งานดูสิ่งนั้นซ้ำ ๆ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อัลกอริทึมของ TikTok โดดเด่นคือการเปิดกว้างในเรื่องการมองเห็นมากกว่า ดังนั้นแม้ไม่มีผู้ติดตามก็สามารถเกิดวิดีโอไวรัลได้
บัญชี TikTok นอกจากเอาไว้ลงคอนเทนต์แล้วยังสามารถยิงแอดหรือทำแคมเปญได้อีกหลายรูปแบบให้เล่นกับผู้ใช้งาน มากกว่านั้นธุรกิจออนไลน์สามารถสร้างแคมเปญให้ผู้ใช้งานนำแคมเปญไปเล่นต่อให้กลายเป็นไวรัลได้ง่าย ๆ ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อแบรนด์ เช่น
TikTok ถือเป็นแพลตฟอร์มที่หลังจากเปิดตัวมาทำให้ผู้คนสนใจการดูวิดีโอแนวตั้งมากขึ้น ซึ่งเป็นผลเสียกับแบรนด์ที่เน้นทำวิดีโอคอนเทนต์แนวนอนเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้อาจไม่ตอบโจทย์กับแบรนด์เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ทำออกมาเพื่อวิดีโอแนวตั้งเท่านั้น แม้ผู้ใช้งานสามารถหมุนหน้าจอมือถือเพื่อรับชมได้ แต่จะเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ใช้งาน ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ผู้ใช้งานกดผ่านได้ ดังนั้นตัวแบรนด์อาจต้องเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้เข้ากับรูปแบบแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น
เนื่องด้วยการใช้แพลตฟอร์ม TikTok นั้นเป็นรูปแบบการนำเสนอที่รวดเร็วใช้ระยะเวลาที่ไม่นาน ดังนั้นความยาวช่วง 5-6 วินาทีแรกควรที่จะดึงดูดผู้ใช้งานให้ได้ โดยแนวทางคอนเทนต์ที่ธุรกิจออนไลน์หรือแบรนด์ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้น่าสนใจไม่ยัดเยียดการขายแบรนด์มากเกินไป เพื่อให้ความเพลิดเพลินให้กับผู้ใช้งานไม่ให้เลื่อนผ่าน เพราะเกิดวิดีโอถูกเลื่อนผ่านบ่อยหรือกดข้ามบ่อย ๆ TikTok อาจมองว่าเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ดีได้ ทำให้วิดีโอตัวนั้นไม่ถูกดันขึ้นหน้าฟีด
ถ้าต้องการให้วิดีโอคอนเทนต์ของธุรกิจออนไลน์หรือแบรนด์เป็นที่จดจำของผู้ใช้งานก็ต้องใช้เวลา เพราะกว่าที่ยอดวิวหรือเกิดไวรัลก็ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ให้คอนเทนต์น่าสนใจ ถ้าต้องการยิงแอดเพื่อเพิ่มโอกาสการมองเห็นมากขึ้นก็ต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ทั้งเรื่องการตลาดบนติ๊กต็อกและการวางแผนทำคอนเทนต์ เพื่อให้ผลการตอบกลับคุ้มค่ากับเงินทุนที่เสียไป
หลังจากที่ได้รับรู้แล้วว่าการทำการตลาดบน TikTok นั้นกล่าวถึงข้อดีข้อเสียว่ามีอะไรบ้างแล้ว สิ่งควรทำเป็นเรื่องแรก ๆ เลยก็คือการมองหากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจหรือแบรนด์ของเราว่าต้องการอะไร เพื่อวางแผนการปฏิบัติให้กับธุรกิจของเรา เพราะไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหน ๆ ก็ต่างมีทั้งข้อดีข้อเสียทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้การสร้างแบรนด์ใน TikTok ก็อย่าลืมนำเอาข้อดีไปปรับใช้และคำนึงถึงข้อเสียเพื่อไม่ให้แบรนด์ติดหล่มการทำแบรนด์ในแพลตฟอร์มติ๊กต็อก
พื้นที่สำหรับโฆษณา
(ภาพโปรโมชัน สไลด 5-6 ภาพ)