7 ข้อต้องรู้ลืมรหัสผ่าน Facebook ต้องทำอย่างไรให้บัญชีใช้งานได้ปกติ

ในยุคที่ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายเพียงมีบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Line, Massegers, Instagram, Tiktok, X ก็จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงสังคมออนไลน์ที่มีผู้คนมากมายหลากหลายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์มต่าง ๆ เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณเป็น Influencer ได้อย่างง่ายหากคุณทำคอนเทนต์ที่ทันสมัยและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากที่จะช่วยให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปแล้วยังสามารถทำให้คุณเชื่อมต่อ ติดต่อ พูดคุย กับคนที่คุณรู้จักหรือไม่รู้จักได้ง่ายอีกด้วย

            แต่ในบางครั้งผู้คนที่มีบัญชีเหล่านี้สามารถที่จะต้องถูกโจมตีด้วยการโดนแฮก โดนกลั่นแกล้ง หรือปัญหาที่เกิดจากความจำของตนเองได้อย่างการลืมรหัสผ่าน Facebook ซึ่งจะทำให้คุณเกิดความลำบากในการกู้คืนบัญชีได้หากคุณได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบางอย่าง หรือลืมสิ่งนั้นไปแบบไม่สามารถนำความคิดเหล่ากลับมาใหม่ได้

            ในบทความนี้เราจึงได้นำ 7 ข้อที่คุณต้องรู้เมื่อลืมรหัสผ่าน Facebook ต้องทำอย่างไรให้บัญชีกลับมาใช้งานได้ปกติดังนี้ 

ทำอย่างไร เมื่อลืมรหัสผ่าน Facebook?

 

1. หายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสติ และทำใจให้เย็น ๆ

การมีความเข้าใจในสถานการณ์ที่คับขันถือเป็นสิ่งที่คุณควรฝึกให้มันเป็นนิสัยเพื่อที่คุณจะได้ไม่กลายเป็นคนที่เพนิกง่ายหรือคิดมากจนเกิดไป ด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ และตั้งสติให้กับตัวเอง พร้อมกับทำจิตใจให้สงบ และทำความเข้าใจว่าการลืมรหัสผ่านสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สิ่งสำคัญคืออย่ากังวล อย่าคิดมากจนเกิดไป เนื่องจาก Facebook มีระบบช่วยให้คุณรีเซตรหัสผ่านใหม่ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนที่แนะนำ

 

2. เมื่อคุณลืมรหัสผ่าน Facebook ให้ไปที่หน้า "ลืมรหัสผ่าน"

• บนเว็บเบราว์เซอร์: ไปที่ "https://www.facebook.com/" คลิก "ลืมรหัสผ่าน?"
• บนแอปพลิเคชัน Facebook: แตะ "ลงชื่อเข้าใช้" > "ไม่สามารถจำรหัสผ่านได้หรือไม่?"

กดเข้าไปและทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ภายใน

 

3. เลือกวิธีการยืนยันตัวตน

• อีเมล: กรอกอีเมลที่เชื่อมโยงกับบัญชี Facebook > คลิก "ค้นหา" > ตรวจสอบอีเมลจาก Facebook > คลิกลิงก์เพื่อรีเซตรหัสผ่าน
• เบอร์โทรศัพท์: กรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชี Facebook > คลิก "ค้นหา" > รอรับ SMS จาก Facebook > กรอกรหัส OTP 6 หลัก > คลิก "ดำเนินการต่อ" > ตั้งรหัสผ่านใหม่

 

4. กรอกข้อมูลยืนยันตัวตนเพิ่มเติม

            เมื่อคุณเข้ามายังหน้านี้แล้วคุณจำเป็นต้องใส่ข้อมูลยืนยันตัวตนเพิ่มเติม เช่น เพื่อนใน Facebook สีที่ชอบ ฯลฯ เพื่อให้ Facebook แน่ใจว่านี้เป็นคุณรวมไปถึงหากคุณใช้การเชื่อมต่อบัญชีไปยังเบอร์โทรศัพท์จะทำให้คุณอาจต้องกรอกหมายเลขโทรศัพท์และรอรับ OTP เพื่อเตรียมรีเซตรหัสผ่านเป็นต้น

 

5. ตั้งรหัสผ่านใหม่

เมื่อผ่านขั้นตอนที่ 4 มาแล้วต่อไปคุณจำเป็นต้องตั้งรหัสผ่านใหม่ที่คาดเดายาก และไม่ใช้กับบัญชีอื่น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงในการตั้งรหัสผ่านควรมีองค์ประกอบที่ครบถ้วน เช่น ตัวอักษร, ตัวเลข, อักขระ เพื่อให้รหัสของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

6. บันทึกข้อมูลการเข้าสู่ระบบ

จดบันทึก username และรหัสผ่านใหม่ เก็บไว้ในที่ปลอดภัย โดยที่มีข้อแนะนำคือ คุณควรที่จะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ลงในโน้ตเพื่อเป็นการเตือนความจำของคุณและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีกในอนาคต

 

7. เพิ่มความปลอดภัยให้บัญชี

            ปัจจุบัน Facebook มีการเปิดให้คุณได้ทำกิจกรรมที่ปลอดภัยมากขึ้น เช่น

• เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA)
• บันทึกวิธีการกู้คืนบัญชีสำรอง
• ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

            เพื่อให้บัญชีของคุณถูกแฮกยากมากขึ้นและเพื่อป้องกันบัญชี Facebook ของคุณถูกโจมตีรวมถึงการกู้คืนบัญชีที่ง่ายมากยิ่งขึ้น

ข้อควรรู้ หากดำเนินการตามทุกอย่างแล้วแต่ไม่มีตัวเลือกอะไรเลยให้ทำตามนี้

• กดแจ้ง Facebook ว่าโดนแฮก
• ยืนยันด้วยบัตรประชาชน
• ทำตามขั้นตอนของ Facebook อย่างละเอียด
• เมื่อได้ทำตามขั้นตอนจนครบถ้วนคุณจะได้รีเซตรหัสใหม่
• เข้าใช้งาน Facebook ได้ตามปกติ

การป้องกัน Facebook ถูกแฮกและวิธีการรีเซตรหัสผ่าน Facebook ถือเป็นเรื่องของความปลอดภัยที่คุณไม่ควรมองข้าม เนื่องจากบัญชี Facebook ของคุณนั้นมีความสำคัญเพราะมันเปรียบเหมือนตัวตนของคุณบนโลกโซเชียลมีเดียและสังคมออนไลน์ ซึ่งหากคุณเสียบัญชีของคุณไปจะทำให้คุณต้องเริ่มต้นการสร้างตัวตนใหม่ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาและอาจเสีย connection จากผู้รู้จักต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นผลเสียที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากการถูกแฮกและลืมรหัสผ่าน ดังนั้นการตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัยและการจัดเก็บ จดจำรหัสผ่านไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัยของคุณจึงเป็นสิ่งที่ควรทำและไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างมาก