จะทำการตลาดต้องรู้ SEO และ SEM ต่างกันอย่างไร ใช้กลยุทธ์ไหนถึงคุ้มค่า
auttaphon auttaphon |
การทำการตลาดเพื่อให้ธุรกิจเติบโตมากยิ่งขึ้นในปัจจุบันสำหรับธุรกิจที่จำเป็นต้องขายสินค้าและบริการ การทำการเพียงแค่โซเชียลมีเดียช่องทางเดียวคงอาจไม่พอ เพราะการตีตลาดผ่านช่องทางเว็บไซต์ถือเป็นช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าที่ได้เป็นอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันเทรนด์ผู้บริโภคหันมาใช้อินเทอร์เน็ตมากยิ่งขึ้นและผู้ใช้งานแต่ละคนมักมีปัญหาในการใช้ชีวิตกันอย่างมากมายทำให้การทำ SEO และ SEM มีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการตอบสนองต่อปัญหา หรือความสงสัยของผู้ใช้งานผ่านการค้นหาด้วย Keywords ที่ต้องพิมพ์ลงใน Search Engine อย่าง Google
ทำให้ธุรกิจที่มองเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้จึงหันเข้ามาปรับตัวและใช้การทำ SEO และ SEM ในการเข้าหากลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการหรือมีการค้นหาใน Keywords ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเพื่อสร้างยอดขายให้กับธุรกิจที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีผู้ประกอบการหลายคนยังไม่รู้จักว่า SEO และ SEM ต่างกันอย่างไร ในบทความนี้จึงมีคำตอบมาให้ดังนี้
SEO และ SEM เป็นสองกลยุทธ์สำหรับการตลาดออนไลน์ที่ใช้เพื่อเพิ่มการแสดงผลของเว็บไซต์หรือสินค้าบนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google เพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้เยี่ยมชม ซึ่งแต่ละอย่างมีวิธีการและสิ่งที่แตกต่างกันดังนี้
SEO (Search Engine Optimization)
SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เพื่อปรับแต่งและปรับปรุงเว็บไซต์หรือเนื้อหาในเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google ฯลฯ โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา
วิธีการสำคัญใน SEO รวมถึงการใช้ Keywords สำคัญที่เกี่ยวข้องในเนื้อหา, การสร้างลิงก์ภายในและภายนอก, การเพิ่มคุณภาพของเนื้อหา, การใช้งาน meta tags อย่างเหมาะสม เป็นต้น โดยมีข้อสำคัญคือการติดอันดับที่ดีบน Google Search
SEM (Search Engine Marketing)
SEM เป็นการใช้การโฆษณาบนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google เพื่อเพิ่มการแสดงผลของเว็บไซต์หรือสินค้า โดยการจ่ายเงินในรูปแบบ CPC (Cost Per Click) หรือ CPM (Cost Per Thousand Impressions)
การโฆษณา SEM สามารถปรับแต่งได้ตามกลุ่มเป้าหมาย, การค้นหา, และสถานที่ เพื่อให้การโฆษณามีประสิทธิภาพมากที่สุด
ซึ่งในความแตกต่างของทั้ง 2 กลยุทธ์ในการทำ SEO จะเป็นกระบวนการที่เน้นไปที่การปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาโดยธรรมชาติ ในขณะที่ SEM เป็นการใช้การโฆษณาเพื่อเพิ่มการแสดงผลในผลการค้นหา โดยการจ่ายเงินและเลือกกลุ่มเป้าหมายและแสดงโฆษณาให้กับกลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้งานยังเว็บไซต์โดยไม่ต้องเสียเวลาทำ SEO ใช้เพียงแค่งบประมาณเพียงเท่านี้โฆษณาของคุณจะสามารถติดอันดับของ Google ได้ดีมากยิ่งขึ้นในส่วนของการโฆษณาเป็นต้น
กลยุทธ์การทำการตลาดด้าน SEO
หากคุณอยากวางแผนการตลาดที่เสียเงินเพียงครั้งเดียวแต่สามารถสร้างธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของคุณในระยะยาว คุณควรพิจารณาทำ SEO เพราะการทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้ดีมากยิ่งขึ้นได้และอาจทำให้เกิดการติดอันดับได้อย่างถาวร แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณควรเป็นห่วงคือเรื่องของการจัดอันดับของเว็บไซต์ผ่าน Keywords ที่ผู้คนนั้นต้องการค้นหา เพราะหากไม่ทำอย่างต่อเนื่องอาจทำให้อันดับที่เคยอยู่สูงตกลงได้ หากไม่มีการอัปเดตบทความหรือลงบทความใหม่ เพราะอัลกอริทึมของ Google นั้นจะชอบบทความที่สดใหม่และตอบโจทย์กับผู้อ่านเป็นอย่างมาก
กลยุทธ์การทำการตลาดด้าน SEO
หากคุณไม่มีเว็บไซต์แต่ต้องการรุกการตลาดบนเว็บไซต์การทำ SEM สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณได้รับลูกค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้นได้ หรือหากคุณมีเว็บไซต์แต่เว็บไซต์ยังติดอันดับไม่ดีหากรอจะทำให้เสียลูกค้าการทำ SEM สามารถตอบโจทย์ให้กับคุณได้เ ป็นอย่างมาก เพราะการทำ SEM เหมาะกับธุรกิจที่มีงบการทำการตลาดสูงและต้องการประมูล Keywords คำค้นหากับธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งผลการกดคลิกหรือการมองเห็นจะดีหรือไม่ดีจะขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการวางแผนการทำ SEM
ซึ่งข้อดีของ SEM นั่นคือการที่เว็บไซต์สามารถติดอันดับการค้นหาได้อย่างรวดเร็วหากมีคนค้นหา Keywords ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณติดอันดับการค้นหาได้อย่างรวดเร็วและได้ลูกค้าใหม่เข้ามาซื้อสินค้าและบริการง่ายมากยิ่งขึ้น
ทั้งสองกลยุทธ์การตลาดอย่างการทำ SEO และการทำ SEM สามารถเลือกใช้ได้ตามแบบแผนของธุรกิจ ซึ่งหากคุณมองว่าธุรกิจของคุณเน้นการหวังผลในการขายสินค้าและบริการในระยะยาว ควรเลือกการทำ SEO เพราะจะตอบโจทย์กับแผนการตลาดในด้านนี้มากกว่า แต่หากมองว่าธุรกิจของคุณพึ่งเริ่มต้นและจำเป็นต้องรีบหาลูกค้าเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไปหรือเป็นธุรกิจที่มีเงินเหลือสำหรับการทำการตลาดและหวังผลในระยะยาวและระยะสั้นการทำ SEM ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับการทำธุรกิจในการเข้าหาลูกค้าเชิงรุกอย่างทันที ซึ่งในแต่ละแบบของกลยุทธ์การตลาดด้าน SEO และ SEM มีข้อดีและข้อเสียต่างกันควรพิจารณาให้ดีเพื่อผลประโยชน์ของธุรกิจของคุณอย่างสูงที่สุด
พื้นที่สำหรับโฆษณา
(ภาพโปรโมชัน สไลด 5-6 ภาพ)