แชร์วิธีการค้นหาและเลือกใช้ Long tail Keywords ตัวช่วยเสริมการทำ SEO
auttaphon auttaphon |
การตลาดออนไลน์ในปัจจุบันมักเต็มไปด้วยการแข่งขันสูง จึงทำให้การทำ SEO หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับในผลการค้นหาของเสิร์ชเอนจินอย่าง Google กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานมากขึ้น แต่ปัจจุบันการแข่งขันสำหรับคำค้นหาหลัก (Keywords) หรือคำที่มีการค้นหาสูงถือเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอย่างมาก เพราะเว็บไซต์จำนวนมากต่างก็พยายามให้เว็บไซต์ของตนขึ้นอันดับในหน้าแรก Long tail keywords จึงได้กลายเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพในการดึงดูดผู้เข้าชมที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้างโอกาสในการทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้ง่ายกว่า
ปัจจุบันมีเครื่องมือตัวช่วย SEO ที่ดีและมีประสิทธิภาพ เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs, Semrush และ Ubersuggest ที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณค้นหาคำค้นหาหลักที่เกี่ยวข้องได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพียงแค่ใส่ keywords ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เครื่องมือเหล่านี้จะทำการแนะนำ keywords idea ที่เฉพาะเจาะจงและมีการค้นหาจริงในตลาด นอกจากนี้ยังสามารถดูระดับการแข่งขันและปริมาณการค้นหาของคำเหล่านี้ได้ ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจว่า Long tail keywords ใดที่มีศักยภาพในการทำ SEO มากที่สุด
อีกวิธีที่ง่ายและไม่เสียค่าใช้จ่ายในการค้นหา Long tail keywords คือการใช้ฟีเจอร์การแนะนำคำค้นหาของ Google เมื่อพิมพ์ keywords ที่ต้องการลงในช่องค้นหา Google จะแสดงรายการคำค้นที่เกี่ยวข้องที่มีการค้นหาบ่อย ซึ่งคุณสามารถใช้คำเหล่านี้เป็น Long tail keywords ได้ทันที
การค้นหา Long tail keywords สามารถทำได้โดยการศึกษาคำถามที่ผู้ใช้งานมักถามบ่อยเกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณ หรือการสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ใช้งาน จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าผู้ใช้งานต้องการคำตอบหรือข้อมูลเกี่ยวกับอะไร ซึ่งคุณสามารถนำคำถามเหล่านี้มาปรับเปลี่ยนเป็น Long tail keywords ที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ เช่น หมูกระทะใกล้ฉัน, ของที่ระลึกยอดนิยม เป็นต้น
Google Analytics และ Google Search Console สามารถช่วยในการวิเคราะห์ว่าคำค้นหาใดที่ผู้ใช้งานใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถสำรวจ keywords เหล่านี้และนำไปปรับเปลี่ยนให้เป็น Long tail keywords ที่มีประสิทธิภาพได้
การวิเคราะห์ keywords ที่คู่แข่งของคุณใช้และติดอันดับสูงในหน้าแรกของผลการค้นหา จะช่วยให้คุณได้ไอเดียว่า keywords ใดที่ผู้ใช้งานสนใจและมีศักยภาพในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เมื่อรู้จักคำค้นเหล่านี้แล้ว คุณสามารถปรับแต่งให้เป็น Long tail keywords ที่เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณได้ทันที
Long tail keywords ควรถูกใช้ในเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ควรใส่ keywords จนเกินไป เพราะอาจทำให้เนื้อหาอ่านยากและไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน
นอกจากเนื้อหาหลักแล้ว คุณควรใส่ Long tail keywords ในส่วนสำคัญของหน้า เช่น หัวข้อย่อย (H2, H3), ข้อความสรุป, ข้อความนำ, และส่วนท้ายของเนื้อหา เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เสิร์ชเอนจินเข้าใจได้ง่ายว่าเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ keywords ใด
Long tail keywords ช่วยให้เนื้อหาสามารถเจาะจงตามความต้องการของผู้ใช้งานได้ ดังนั้นควรสร้างเนื้อหาที่ตรงกับ Long tail keywords เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าเนื้อหามีคุณค่าและตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้ Traffics มากยิ่งขึ้น
สำหรับบาง keywords ที่มีความเฉพาะเจาะจงมาก ควรสร้างบทความหรือหน้าเว็บที่เน้นคำค้นนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้หน้าเว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับได้ดีขึ้นในผลการค้นหาสำหรับคำค้นเฉพาะเหล่านั้น
แม้ว่า Long tail keywords จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำ SEO แต่ก็ควรระวังไม่ให้ใส่ keywords มากจนเกินไป (keyword stuffing) เพราะจะทำให้เนื้อหาดูไม่เป็นธรรมชาติและอาจถูกลงโทษจากเสิร์ชเอนจินได้ ควรเน้นการใช้คำค้นให้สอดคล้องกับเนื้อหาและเน้นคุณภาพของข้อมูลเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันการเลือกใช้ Long tail keywords เป็นหนึ่งในวิธีการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเข้าถึงของเว็บไซต์โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง ด้วยการใช้เครื่องมือค้นหาและวิธีการสำรวจ keywords ที่มีความเฉพาะเจาะจง การทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และการเลือกใช้ Long tail keywords อย่างเหมาะสม นอกจากจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา ยังช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย
พื้นที่สำหรับโฆษณา
(ภาพโปรโมชัน สไลด 5-6 ภาพ)