Wordpress.org VS WordPress.com ต่างกันอย่างไร มือใหม่ต้องทำเว็บต้องรู้

auttaphon auttaphon |

Picture of the FreepickPicture of the Freepick215 views

ไม่ว่าคุณจะต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อธุรกิจ เพื่อสร้างบล็อกส่วนตัว หรือสร้างเพื่อจุดประสงค์ใดก็ตาม WordPress ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับสร้างเว็บไซต์ประเภท CMS ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน สำหรับมือใหม่ที่กำลังเริ่มสร้างเว็บไซต์ใหม่และกำลังสับสนอยู่ว่าระหว่าง WordPress.com และ WordPress.org นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะมาจำแนกฟีเชอร์ ข้อดีข้อเสียของทั้งสองรูปแบบ เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้ว่าตัวไหนเหมาะกับธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณที่สุด 

 

Wordpress.org VS WordPress.com ต่างกันอย่างไร มือใหม่สร้างเว็บไซต์ต้องรู้

WordPress คืออะไร

WordPress คือ เว็บสำเร็จรูปประเภท Content Management System (CMS) ที่สามารถสร้างเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องการเขียนโค้ด เป็นเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะสามารถปรับแต่งได้ง่ายและตัวเว็บเองก็มีความยืดหยุ่นสูงเหมาะกับธุรกิจหลากหลายประเภท ซึ่งตัว WordPress ถูกพัฒนาขึ้นจากภาษา PHP และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL โดยจะมีส่วนประกอบหลัก ๆ ได้แก่

  • WordPress Core ที่เป็นซอฟต์แวร์หลัก มีไว้ใช้จัดการเว็บไซต์ เนื้อหาต่าง ๆ
  • Theme เป็นส่วนที่กำหนดรูปแบบการแสดงผลหรือดีไซน์ของเว็บไซต์
  • Plugin เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ WordPress เช่น ระบบการสร้างหน้าเว็บไซต์ ระบบจัดการสินค้า ระบบการเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO เป็นต้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้ WordPress จะเป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าหากมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสื่อให้กับธุรกิจอย่างจริงจังก็อาจจะมีส่วนที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อาทิเช่น การจดโดเมนเนม ค่าธีม หรือปลั๊กอินในบางตัว เป็นต้น

 

Wordpress.org VS WordPress.com ต่างกันอย่างไร มือใหม่สร้างเว็บไซต์ต้องรู้

WordPress.org และ WordPress.com ต่างกันอย่างไร

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์แต่ยังไม่รู้ข้อแตกต่างระหว่าง .com และ .org มีข้อแตกต่างกันอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง ดังนี้

WordPress.org

WordPress.org มีซอฟต์แวร์จัดการเว็บไซต์แบบ open-source โดยเปิดให้ใช้งานได้ฟรี ซึ่งผู้ใช้งานสามารถแก้ไขหรือปรับแต่งเว็บไซต์ได้ตามต้องการ มีธีมและปลั๊กอินให้เลือกใช้งานหลากหลายโดยตัวผู้ใช้งานมีสิทธิ์ในการจัดการเว็บไซต์อย่างสมบูรณ์ รูปแบบเว็บแบบนี้จึงเหมาะกับเว็บไซต์ธุรกิจที่ต้องการความเสถียร สวยงามและดูเป็นทางการ

จุดเด่น

  • สามารถทำเว็บได้หลากหลายรูปแบบ
  • ติดตั้งปลั๊กอินเองได้
  • มีอิสระในการจัดการและสามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้
  • สำหรับดาวน์โหลดส่วนประกอบของเว็บไซต์
  • ต้องหาโดเมน โฮสต์และธีมเอง
  • มีซอฟต์แวร์ฟรี แต่ธีมมีทั้งฟรีและเสียเงิน

WordPress.com 

WordPress.com คือเป็นเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ได้รับการต่อยอดมาจาก WordPress.org โดยมีจุดเด่นที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องซื้อโดเมนเนมหรือเช่า Hosting เอง เพียงแค่ลงทะเบียนแล้วสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้ทันที ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการความซับซ้อน เพราะมีฟีเชอร์ที่จัดการง่าย

จุดเด่น

  • ให้บริการพื้นที่เพื่อทำเว็บไซต์ฟรี 3 GB
  • อัปเดตเวอร์ชันแพลตฟอร์มให้อัตโนมัติ
  • ทางทีมผู้พัฒนา Backup ข้อมูลให้ตลอดเวลา
  • ไม่จำเป็นต้องมีโดเมนและโฮสต์
  • มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
  • เหมาะสำหรับการเขียน Blog อย่างเดียว

 

Wordpress.org VS WordPress.com ต่างกันอย่างไร มือใหม่สร้างเว็บไซต์ต้องรู้

WordPress.org และ WordPress.com มีข้อดีเสียอะไรบ้าง

ข้อดีข้อเสียของ WordPress.org

ข้อดี

  • มีธีมและปลั๊กอินให้เลือกใช้หลากหลาย
  • ปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบตามต้องการ
  • ผู้สร้างเป็นเจ้าของเว็บไซต์โดยสมบูรณ์แบบ
  • สร้างสามารถปรับแต่โดเมนเนมได้
  • สามารถขายพื้นที่โฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ได้

ข้อเสีย

  • ต้องมีพื้นฐานเรื่องการตั้งค่าเว็บไซต์ 
  • ต้องหาโดเมน ธีม และโฮสต์เอง 
  • หากเว็บล่มจะต้องแก้ไขเอง
  • มีความซับซ้อนสูงเนื่องจากปรับแต่งได้หลากหลาย

ข้อดีข้อเสียของ WordPress.com

ข้อดี

  • มีรูปแบบให้บริการฟรี
  • ใช้งานง่าย 
  • สร้างเว็บไซต์ได้ง่าย เขียนโค้ดไม่เป็นก็ทำได้
  • มีรูปแบบฟรีให้เลือก
  • ไม่ต้องหาโฮสต์ เพราะสามารถใช้พื้นที่ของ WordPress ได้

ข้อเสีย

  • จำนวนธีมและปลั๊กอินมีจำกัด
  • โดเมนฟรีแต่จะมี wordpress.com ต่อท้าย 
  • ถ้าต้องการธีมหรือฟีเชอร์ที่หลากหลายต้องเสียเงินเพิ่ม
  • ไม่มีการปรับแต่งที่หลากหลาย
  • ตัวฟรีเวอร์ชันจะมีโฆษณาอยู่หน้าเว็บไซต์

รูปแบบไหนเหมาะกับใครบ้าง

WordPress.org

  • เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่อยากทำเว็บ
  • เหมาะทั้งบริษัทขนาดเล็ก - กลาง และบริษัทขนาดใหญ่ หรือ Corporate
  • ไม่เหมาะกับเว็บไซต์ที่ต้องการความปลอดภัยสูงอย่างเว็บไซต์ธนาคารหรือโรงพยาบาล

WordPress.com

  • เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่อยากทำเว็บ เช่น Blog Portfolio เป็นต้น
  • ผู้ที่ต้องการทดลองการใช้งานเว็บไซต์ WordPress ฟรี
  • ผู้ที่มีงบจำกัด

หลังจากได้รู้แล้วว่า WordPress.org และ WordPress.com ทั้งสองรูปแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง ซึ่งหลัก ๆ ทั้งสองรูปแบบนั้นมีความต่างที่ระบบการดูแล โดยตัว .org ผู้ใช้งานจะเป็นคนจัดการเว็บไซต์อย่างสมบูรณ์แบบ แต่กับตัว .com นั้นจะเป็นทางผู้ดูแลของ WordPress ซึ่งทั้งสองตัวก็มีความเหมาะสมต่างกันไปว่าผู้ใช้งานมีความต้องการที่จะทำเว็บไซต์เพื่ออะไร ถ้าต้องการความทางการและสามารถดูแลได้อย่างเต็มรูปแบบ ขอแนะนำ WordPress.org แต่ถ้ามีจุดประสงค์แค่ต้องการเขียนคอนเทนต์ สร้างพอร์ตโฟลิโอ ขอแนะนำตัว WordPress.org ที่การทดลองใช้และมีระบบให้ใช้งานได้ฟรี แม้จะมีราคาหรือค่าใช้จ่ายบ้างเล็กน้อย แต่ก็ขึ้นกับผู้ใช้งานว่าต้องการอัปเกรดเพิ่มขึ้นแค่ไหน

 

พื้นที่สำหรับโฆษณา

(ภาพโปรโมชัน สไลด 5-6 ภาพ)